14 พฤศจิกายนของทุกปีถูกกำหนดให้เป็นวันเบาหวานโลกซึ่งในปีพ.ศ. 2563 นี้สมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ(IDF: International Diabetes Federation) ได้กำหนดให้มีการรณรงค์ในหัวข้อหัวข้อNurses Make the Differencefor Diabetesหรือในชื่อภาษาไทยที่ว่าเปลี่ยนวิกฤตเบาหวานด้วยพลังแห่งการพยาบาลวันเบาหวานโลก2563การรณรงค์ในปีนี้สมาพันธ์เบาหวานนานาชาติมีความมุ่งหมายที่จะสร้างความตระหนักของผู้คนบนโลกต่อบทบาทหน้าที่ที่สำคัญของพยาบาลในการร่วมคัดกรองให้คำแนะนำการปฏิบัติตนเพื่อการป้องกันและรักษาโรคเบาหวานตลอดจนภาวะแทรกซ้อนนอกจากนี้พยาบาลยังมีส่วนช่วยในการเสริมพลังใจให้ผู้ป่วยและครอบครัวทำให้ผู้เป็นเบาหวานสามารถอยู่กับโรคเบาหวานได้อย่างปกติมีความสุขมีกำลังใจที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องไปกับเป้าหมายที่คาดหวังในการดูแลรักษา
ทั้งนี้องค์การอนามัยโลก(WHO: World Health Organization) ได้เผยตัวเลขที่น่าสนใจว่าปัจจุบันบุคลากรทางการแพทย์และการสาธารณสุขทั่วโลกนั้นอยู่ในวิชาชีพพยาบาลมากถึงร้อยละ59 ของจำนวนทั้งหมดซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่การรณรงค์ในปีนี้จึงมุ่งไปที่การสนับสนุนบทบาทของพยาบาลซึ่งเป็นกำลังที่สำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้กับเบาหวานในระดับโลกอย่างไรก็ตามปัญหาที่สำคัญที่เกิดขึ้นในทุกประเทศก็ยังคงเป็นเรื่องการขาดแคลนจำนวนบุคลากรสายการพยาบาลมีการประเมินว่าทั่วโลกยังต้องการพยาบาลอีกอย่างน้อย6 ล้านคนจึงจะเพียงพอต่อการขับเคลื่อนระบบสาธารณสุขให้เดินหน้าไปได้ด้วยดีอีกทั้งพยาบาลควรมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ8 ต่อปีเพื่อให้มีจำนวนพยาบาลเพียงพอในปีพ.ศ. 25731 ใน11 คนไทยป่วยเบาหวาน
สำหรับสถานการณ์โรคเบาหวานในประเทศไทยศ.เกียรติคุณพญ.วรรณีนิธิยานันท์นายกสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯเผยว่า“เราประมาณการว่าตอนนี้ในประเทศไทยมีผู้ป่วยเบาหวานอยู่ราว5 ล้านคนหรือเปรียบเทียบได้ว่า1 ใน11 คนไทยที่อายุ15 ปีขึ้นไปกำลังป่วยด้วยโรคเบาหวานและมีอัตราเพิ่มขึ้นประมาณหนึ่งแสนคนต่อปีซึ่งในจำนวนนี้มีถึง40% ที่ไม่รู้ว่าตัวเองป่วยขณะที่ผู้ได้รับการวินิจฉัยและดูแลรักษามีเพียง54.1% หรือเพียง2.6 ล้านคนในจำนวนนี้มีเพียง1 ใน3 คนที่สามารถบรรลุเป้าหมายในการรักษาทำให้อัตราการเสียชีวิตจากโรคเบาหวานในเมืองไทยมีมากถึง200 รายต่อวัน”
“ประเทศไทยเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่มีอัตราความชุกของโรคเพิ่มขึ้นรวดเร็วเช่นเดียวกับประเทศในแถบแอฟริกาแปซิฟิกตะวันตกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่น่าเป็นห่วงมากสำหรับประเทศไทยคือความชุกของเบาหวานที่เกิดจากปัญหาโรคอ้วนและพฤติกรรมการใช้ชีวิตในเด็กวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาวเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มที่สูงขึ้นซึ่งกลุ่มนี้เป็นคนวัยทำงานและเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ” ศ.เกียรติคุณพญ.วรรณีนิธิยานันท์กล่าว
เปลี่ยนวิกฤตเบาหวานด้วยพลังแห่งการพยาบาลหลายปีที่ผ่านมาสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯได้เดินหน้าให้การช่วยเหลือผู้ป่วยเบาหวานสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพและสร้างความตระหนักแก่สังคมไทยมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับการรณรงค์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในปีนี้สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯจึงได้ร่วมมมือกับสภาการพยาบาลและสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯจัดทำโครงการคัดเลือกพยาบาลดีเด่นที่มีผลงานดีเด่นในการป้องกันและรักษาโรคเบาหวานในประเภทต่างๆได้แก่พยาบาลนักวิชาการ/วิจัยพยาบาลนักพัฒนานวัตกรรมพยาบาลผู้ให้การบริบาลผู้ป่วยเบาหวานระดับHospital Care และพยาบาลผู้ให้การบริบาลผู้ป่วยเบาหวานระดับPrimary Care โดยเปิดให้โรงพยาบาลและหน่วยงานต่างๆ เสนอชื่อเข้าพิจารณา ระหว่าง14 พฤศจิกายน 2563 ถึง15 มกราคม 2564
รศ.นพ.เพชรรอดอารีย์เลขาธิการสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯกล่าวว่า“นอกจากการรณรงค์วันเบาหวานโลกในปีนี้จะเป็นหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพพยาบาลแล้วปีพ.ศ. 2563 นี้ยังเป็นปีแห่งการชิดชูเกียรติ200 ปีมิสฟลอเรนซ์ไนติงเกลผู้บุกเบิกและวางรากฐานวิชาชีพการพยาบาลสมัยใหม่อีกด้วยซึ่งทางสมาคมโรคเบาหวานฯเล็งเห็นว่าการยกย่องเชิดชูเกียรติพยาบาลที่มีผลงานดีเด่นในการป้องกันและดูแลรักษาโรคเบาหวานจะมีส่วนช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาวิชาชีพการพยาบาลในด้านวิชาการการวิจัยการพัฒนานวัตกรรมและการปฏิบัติการพยาบาลที่เกี่ยวกับการป้องกันและดูแลรักษาโรคเบาหวานให้ก้าวหน้าและทันต่อการเปลี่ยนแปลงอีกทั้งยังช่วยเผยแพร่ชื่อเสียงของพยาบาลเบาหวานหรือDiabetes Nurses ให้เป็นที่ประจักษ์และยอมรับในวงการแพทย์และสาธารณสุขทั้งในระดับประเทศและนานาชาติด้วย”
“อย่างไรก็ตามการจะแก้ไขปัญหาโรคเบาหวานในประเทศไทยนั้นยังคงต้องมีการเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่องซึ่งในส่วนของพยาบาลนั้นทุกภาคส่วนควรร่วมกันสนับสนุนให้มีการเพิ่มจำนวนพยาบาลและสนับสนุนให้พยาบาลอยู่ในระบบสาธารณสุขส่งเสริมการอบรมพัฒนาทักษะการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานให้พยาบาลที่ทำงานอยู่แล้วเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการถ่ายทอดความรู้ไปสู่ประชาชนเพิ่มแหล่งทุนการทำวิจัยสำหรับพยาบาลและสนับสนุนการทำงานของพยาบาลในทุกๆทางด้วย”รศ.นพ.เพชรรอดอารีย์กล่าว
ประเทศไทย…เจ้าภาพประชุมเบาหวานนานาชาติสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯเผยอีกเรื่องที่เป็นความภาคภูมิใจของประเทศนั่นคือการได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดThe International Diabetes Federation Congress 2021 หรือWorld Diabetes Congress 2021 เป็นงานประชุมใหญ่ของสมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ2564 ซึ่งจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่6 – 9 ธันวาคมพ.ศ.2564 เมื่อพิจารณาจากทรัพยากรความพร้อมและความมุ่งมั่นในการจัดการวิกฤตการณ์เบาหวานจากสมาชิกทั้งหมด168 ประเทศBangkok IDF Congress 2021 จึงถือได้ว่าเป็นก้าวสำคัญในการประกาศศักยภาพของประเทศไทยบนเวทีโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาของการแพร่ระบาดของCOVID-19 IDF congress 2021 จะเป็นการประชุมของเครือข่ายแพทย์นักวิทยาศาสตร์พยาบาลนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้กำหนดนโยบายและเครือข่ายสมาคมโรคเบาหวานในประเทศสมาชิกเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และการบริหารจัดการเกี่ยวกับโรคเบาหวานผสานความร่วมมือในด้านต่างๆโดยมุ่งผลักดันให้โรคเบาหวานเป็นวาระด้านสุขภาพของโลกที่ต้องร่วมมือกันดูแลและป้องกันยกระดับการเข้าถึงการรักษาให้กับประชาชนตลอดจนหาแนวทางที่จะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้นนอกจากนี้การประชุมดังกล่าวยังมีวาระสำคัญพิเศษนั่นคือการเฉลิมฉลองครบรอบ100 ปีแห่งการค้นพบอินซูลินหนึ่งในความก้าวหน้าทางการรักษาในประวัติศาสตร์ที่ช่วยชีวิตของผู้ป่วยเบาหวานมาแล้วหลายล้านคน