ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย วอนบริจาคโลหิตสำรองช่วงหยุดยาว เนื่องจากโรงพยาบาล มีการเบิกขอใช้โลหิตเฉลี่ย 7,000 ยูนิตต่อวัน แต่สามารถจ่ายโลหิตได้เพียงร้อยละ 45 เท่านั้น ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยทั่วประเทศ
รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน ปริมาณความต้องการใช้โลหิตในการรักษาผู้ป่วยทั่วประเทศเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งมีช่วงหยุดยาว 4 วัน คือ วันที่ 10-13 ธันวาคม 2563 ตามมติ ครม. ให้เป็นวันหยุดราชการพิเศษเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศ ทำให้มีประชาชนออกเดินทางท่องเที่ยว หรือกลับภูมิลำเนาต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก เพิ่มความเสี่ยงของอุบัติเหตุ บนท้องถนน อันเป็นที่มาของความต้องการโลหิตอย่างเร่งด่วน
โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ จำเป็นต้องสำรองโลหิตสำหรับใช้ในการรักษาผู้ป่วยอย่างทันท่วงที จึงมีการขอเบิกโลหิตสูงถึงวันละ 6,000-8,000 ยูนิต ทำให้ปริมาณโลหิตสำรองคงคลังไม่เพียงพอ อาจส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยที่ต้องการโลหิตในการรักษาอย่างเร่งด่วน อาทิ อุบัติเหตุ ผู้ป่วยผ่าตัด ตกเลือดหลังคลอด และผู้ป่วยโรคเลือดที่จำเป็นต้องใช้โลหิต เป็นประจำ
ดังนั้น ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ขอวอนผู้ที่มีสุขภาพดี โดยเฉพาะผู้ที่เคยบริจาคโลหิตเมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่บริจาคครบ 3 เดือนแล้ว สามารถบริจาคโลหิตได้อย่างต่อเนื่องทุก 3 เดือนหรือปีละ 4 ครั้ง เพื่อให้มีปริมาณโลหิตที่สม่ำเสมอเพียงพอแก่ผู้ป่วยทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 10-13 ธันวาคม 2563 นี้
ในส่วนภูมิภาคบริจาคโลหิตได้ที่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช (ทุ่งสง) สงขลา และภูเก็ต