
วันที่ 25 เมษายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สำนักงาน คปภ. ภาค 6 (ชลบุรี) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดสมุทรปราการ ได้ลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจสอบอุบัติเหตุรถยนต์บรรทุกหัวลากทะเบียน 73-1430 ชลบุรี หางพ่วงทะเบียน 71-3810 ชลบุรี ชนท้ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลคันหมายเลขทะเบียน ขค 6161 อุดรธานี บริเวณจุดจอดรถฉุกเฉิน บนถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 มุ่งหน้าจังหวัดชลบุรี ตำบลศีรษะจรเข้น้อย อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บกว่า 3 ราย โดยได้ทำการตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัย และติดตามรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูล กรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้ทุกบริษัทประกันภัยตรวจสอบการทำประกันภัยของรถยนต์ทุกคัน ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทุกราย
จากการลงพื้นที่ของสำนักงาน คปภ. จังหวัดสมุทรปราการ เบื้องต้นพบว่า รถยนต์นั่งคันหมายเลขทะเบียน ขค 6161 อุดรธานี คันที่ถูกชน ทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับไว้กับบริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) วงเงินความคุ้มครองสูงสุด 10,000,000 บาทต่อครั้ง
รถยนต์หัวลากคันหมายเลขทะเบียน 73-1430 ชลบุรี และรถยนต์หางพ่วงหมายเลขทะเบียน 71-3810 ชลบุรี มีประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับไว้กับบริษัท เอ็มเอสไอจี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รวม 2 กรมธรรม์ วงเงินความคุ้มครองสูงสุดรวม 2 กรมธรรม์ 20 ล้านบาท กรณีรถยนต์หัวลากและรถยนต์หางพ่วง เป็นฝ่ายผิด ผู้เสียหายจะได้รับค่าสินไหมทดแทนกรณีผู้บาดเจ็บจะมีความคุ้มครองค่ารักษาสูงสุดตามจริง ไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน รวม 2 กรมธรรม์ 160,000 บาท สูญเสียอวัยวะ 200,000 – 500,000 บาทต่อคน รวม 2 กรมธรรม์ 400,000 – 1,000,000 บาท ทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน รวม 2 กรมธรรม์ 600,000 บาท ค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน รวม 2 กรมธรรม์ 200 บาท ต่อวัน รวมกันไม่เกิน 40 วัน ต่อคน โดยมีวงเงินสูงสุด 10 ล้านบาทต่อกรมธรรม์
หากรถยนต์นั่งเป็นฝ่ายผิด ผู้ขับขี่จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่ารักษาพยาบาลตามจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท และกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่าปลงศพจำนวน 35,000 บาท ส่วนผู้โดยสารจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาสูงสุดตามจริง ไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000-500,000 บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน และค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน 200 บาท ต่อวัน
นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่ารถยนต์หัวลากคันหมายเลขทะเบียน 73-1430 ชลบุรี ยังทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 3 ไว้กับ บริษัท แอลเอ็มจีประกันภัย จำกัด (มหาชน) ระยะเวลาคุ้มครองวันที่ 5 มีนาคม 2568 ถึงวันที่ 5 มีนาคม 2569 วงเงินความคุ้มครองชีวิต ร่างกาย อนามัยบุคคลภายนอก 500,000 บาทต่อราย คุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอก 1,000,000 บาทต่อครั้งซึ่งจะต้องรอผลการสอบสวนของพนักงานสอบสวนว่าเป็นฝ่ายประมาทหรือไม่ ทั้งนี้ ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวน จึงยังไม่สามารถชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากเหตุละเมิดดังกล่าวได้จนกว่าผลคดีจะเป็นที่ยุติ แต่อย่างไรก็ตาม การประกันภัยภาคบังคับมีเจตนารมณ์ในการรักษาพยาบาลหรือการเยียวยาอย่างรวดเร็วตามหลักสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทนและค่าปลงศพ สำหรับกรณีรถยนต์ชนกันโดยยังไม่มีฝ่ายใดยอมรับผิด และปรากฏว่ารถยนต์ทั้งสองฝ่ายมีการทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับที่กำหนดให้บริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยรถยนต์คันที่มีผู้โดยสารนั่งมาแล้วบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจะสำรองจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้บาดเจ็บหรือทายาทผู้เสียชีวิตไปก่อนตามความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยของรถยนต์คันที่โดยสารมา
ดังนั้น เบื้องต้นทายาทโดยธรรมของผู้เสียชีวิต 8 ราย จะได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับด้วยหลักสำรองจ่าย โดยผู้ขับขี่รถยนต์หมายเลขทะเบียน ขค 6161 อุดรธานี มีสิทธิได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่าปลงศพ จำนวน 35,000 บาท จากประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ และผู้โดยสารที่เสียชีวิตมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนจากประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ จำนวน 500,000 บาทต่อราย ส่วนผู้โดยสารที่บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล สำนักงาน คปภ. ได้ประสานกับบริษัทประกันภัยเพื่อรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลโดยตรงแล้ว
สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ และขอร่วมไว้อาลัยอย่างสุดซึ้ง พร้อมยืนยันให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยอย่างเต็มที่ โดยขอประชาสัมพันธ์ถึงเจ้าของรถยนต์ทุกคนทำการตรวจสอบว่ารถยนต์ของตนว่ามีประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถฯ) แล้วหรือยัง ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้สิทธิด้านประกันภัย สามารถติดต่อสายด่วน คปภ. โทร. 1186