วันพฤหัสบดี, 22 พฤษภาคม 2025 | 2:20 am
spot_img
วันพฤหัสบดี, 22 พฤษภาคม 2025 | 2:20 am
spot_img

DECAAR by SCG ขับเคลื่อน Low carbon ส่งนวัตกรรมวัสดุตกแต่งภายนอกรักษ์โลกพร้อมจับมือยักษ์ใหญ่ “Turn Waste to Value” เปลี่ยนขยะจากอุตสาหกรรมเป็นวัสดุตกแต่งพื้นและผนังที่ใช้งานได้จริง ทั้งสวยงามและยั่งยืน

เดการ์ บาย เอสซีจี (DECAAR by SCG) แบรนด์วัสดุตกแต่งโดยเฉพาะงานฟาซาดและพื้นภายนอกจากธุรกิจ เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง พลิกโฉมวงการวัสดุตกแต่งอาคาร ตามคำมั่นสัญญา ‘Greenovation for Better Living’ ที่มุ่งมั่นสร้างสังคม Net Zero ให้เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยนวัตกรรม ถือเป็นภารกิจสำคัญของ DECAAR ในการขับเคลื่อนเป้าหมายนี้ให้เป็นจริงอย่างเป็นรูปธรรม ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ตกแต่งอาคารภายนอก

แคทลียา ชัยธนาวิสุทธ์, Outdoor Living Business Manager จาก DECAAR by SCG เน้นย้ำจุดยืนนี้ว่า “ความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน เราในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างและวัสดุตกแต่ง ตะหนักในการช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมได้ โดยเป็นจุดเล็กๆที่เริ่มต้นและมุ่งหวังสร้างแรงกระเพื่อมในวงกว้างมากขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง ไปจนถึงความร่วมมือกันข้ามกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อช่วยให้องค์รวมของทั้งประเทศสามารถเกิดผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้”

การดำเนินการเริ่มต้นตั้งแต่การจัดการภายในองค์กรของตนเอง ทุกผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ เดการ์ บาย เอสซีจี ต้องเป็นสินค้ารักษ์โลกด้วยฉลากรับรอง SCG Green Choice ซึ่งเป็นการ Self Declare ตามมาตรฐานสากล ISO 14021 และแสดงค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์อย่างโปร่งใส ด้วยการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถืออย่าง องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO และสถาบันระดับ International อย่าง EPD International

“เรามุ่งหวัง ทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ลดอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้น้อยกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆโดยเทียบเคียงในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังมีการใช้พลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ในทุกโรงงานผลิต รวมไปถึงการเพิ่มสัดส่วน recycle material ในทุกผลิตภัณฑ์ โดยการนำเอาเศษวัสดุที่เหลือใช้จากโรงงานมาเป็นส่วนผสมในการผลิต”

แน่นอนว่าการขยับปีกของผีเสื้อนั้นสำคัญ แต่การมีพันธมิตรที่พร้อมก้าวไปในทิศทางเดียวกัน ย่อมสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้มากกว่า DECAAR by SCG จึงจับมือแบรนด์ชั้นนำจากอุตสาหกรรมต่างๆ ก่อให้เกิด Green Collaborative Innovation อาทิ ภาครีเทล ร่วมกับ PTT Station และ Café Amazon ทดลองนำฟอยล์จากบรรจุภัณฑ์ และกากกาแฟมาผลิตเป็นกระเบื้องซีเมนต์ปูพื้นและผนังตกแต่ง, ภาคอสังหาฯร่วมกับแสนสิริ นำเศษกระเบื้องหลังคาจากหน้างานและเศษแก้วจากชุมชนมาทำกระเบื้องซีเมนต์ปูพื้น, ภาคโมเดิร์นเทรดร่วมกับ Home Pro นำเศษกระเบื้องมาสร้างกระเบื้องปูพื้นกรีนคอลเลคชั่น, ภาคสถาปัตยกรรรมร่วมกับบริษัท A49 และบริษัทในเครือฯ A110 ในการนำกระเบื้องปูพื้นที่มีส่วนผสมจากเศษกระจกและแก้วจากชุมชน ไปร่วมจัดแสดงในงาน World Expo 2025 และร่วมกับภาคอุตสาหกรรมอาหาร นำเปลือกไข่ไก่บดอัดมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้พื้นโดยรอบมีอุณหภูมิต่ำลง

“ความท้าทายของเรา คือการทำให้ผลิตภัณฑ์จาก Waste ไม่ใช่แค่ทางเลือกเชิงสัญลักษณ์ แต่เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ก่อให้เกิดดีไซน์ใหม่ๆ แต่ยังคงคุณสมบัติเด่นด้านความแข็งแกร่งทนทานเทียบเท่าผลิตภัณฑ์เดิม หรือในบางกรณีอาจมีคุณสมบัติดีกว่าวัสดุแบบดั้งเดิมด้วยซ้ำ เช่น การพัฒนากระเบื้องปูพื้นรุ่น ‘คอมฟอร์ท’ ที่ผสมเปลือกไข่ ผสานเทคโนโลยี HeatSync สามารถสะท้อนความร้อนได้ดีและคายความร้อนได้รวดเร็ว อุณหภูมิที่ผิวดีกว่ากระเบื้องคอนกรีตปูพื้นทั่วไป 5-7 องศา ช่วยให้พื้นที่อยู่อาศัยมีอุณหภูมิที่น่าอยู่และเย็นสบายยิ่งขึ้น สามารถสั่งซื้อจากตัวแทนจำหน่ายของเอสซีจีได้ทั่วประเทศด้านดีไซน์มี Exclusive Collection ที่เราร่วมกับแบรนด์อื่นๆในการผลิตสินค้า Turn Waste To Value ให้นำกลับมาใช้ในโครงการนั้นๆได้จริง เช่น ฟาซาดคาเฟ่อเมซอนที่มีการรีโนเวททั่วประเทศ, พื้นทางเดินในโซนรีเทลของปั๊มปตท., ฟาซาดบ้านและกระเบื้องปูพื้นทางเดินในโครงการของแสนสิริ เป็นต้น”

กระบวนการเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่าย เพราะต้องเริ่มตั้งแต่การทำความเข้าใจคุณสมบัติที่แตกต่างกันของ waste แต่ละชนิด การคัดแยกและเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมใช้งาน การออกแบบสูตรผสมที่แม่นยำ การควบคุมกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐานสูงสุด รวมไปถึงการบริหารซัพพลายเชนทั้งหมด เพื่อให้สินค้ารักษ์โลกมีราคาที่ไม่แพงจนเข้าถึงไม่ได้

“DECAAR จะยังคงมองหาโอกาสใหม่ๆเสมอ ในการพัฒนาความร่วมมือในการนำ waste มาผลิตเป็นสินค้าใหม่ รวมไปถึงการพัฒนาสินค้าอื่นๆให้มีความรักษ์โลกเป็นคุณสมบัติหลักข้อหนึ่ง โดยเราหวังว่าในอนาคตเราจะสามารถพัฒนาเรื่องของต้นทุน และทำให้การซื้อสินค้าที่เป็นกรีนนั้น ไม่ต้องจ่ายมากกว่าอีกต่อไป”

“อีกสิ่งหนึ่งที่เราให้ความสำคัญไม่แพ้กัน คือการส่งมอบ product system ที่ปลอดภัย รองรับสภาวะของโลกที่เปลี่ยนแปลง อาทิ ระบบการติดตั้งวัสดุตกแต่งฟาซาด และระบบรั้ว ที่แข็งแรง รองรับการสั่นไหว หรือแรงลมที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น เพื่อสร้างความปลอดภัย ลดความเสียหายด้านชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริโภค”

อนึ่ง ในงานสถาปนิกสยามประจำปี 2568 ที่ผ่านมา ทาง DECAAR by SCG จึงได้จัดงานเสวนาว่าด้วยเรื่อง Innovation, Sustainability, and Resilience ” The New Era of Architecture ” สร้างสรรค์ ยั่งยืน ปรับตัว…สู่อนาคตสถาปัตยกรรม ในการอัพเดทความรู้ทางด้าน Low Carbon Material & Design, การนำ waste จากอุตสาหกรรมต่างๆมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์, และการปรับตัวจากภัยภิบัติ โดยผู้บรรยายผู้ทรงคุณวุฒิรวมถึงพันธมิตรที่ร่วม Green Collaboration ไปด้วยกัน มีผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก สามารถนำไปต่อยอดและยกระดับการเลือกใช้วัสดุสำหรับงานออกแบบสถาปัตยกรรมเพื่อความยั่งยืน

ทั้งหมดนี้คือเครื่องยืนยันว่า DECAAR by SCG มีความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปเป็นแบรนด์วัสดุตกแต่งภายนอก ทั้งงานฟาซาดและแลนด์สเคป ที่ลุกขึ้นมาสร้างการเปลี่ยนแปลง และนวัตกรรมความร่วมมือที่สร้างความแตกต่าง โดยหวังว่าทั้งเรา คู่ค้า และลูกค้า จะสามารถดำเนินธุรกิจและดำรงชีวิตได้อย่างยั่งยืนต่อไป

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

ข่าวล่าสุด

บริษัท ไม่ลองไม่รู้ จำกัด เลขที่ 108/240 หมู่ที่ 2 หมู่บ้านพฤกษาวิลล์56 ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210

E-Mail : anchaliphon.k@gmail.com

T. 081-666-6822

จำนวนผู้เข้าชม : 1,215,386

[gtranslate]

©2020-2022 www.worldbusiness-th.com