กรุงเทพฯ, 13 สิงหาคม 2564 – เอไอเอ ประเทศไทย เปิดตัว ทางเชื่อมสกายวอล์กจากบีทีเอสเซนต์หลุยส์ เข้าสู่อาคาร “เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์” เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์อำนวยความสะดวก และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางแก่คนในชุมชน พนักงานออฟฟิศ ตลอดจนผู้สัญจรไปมา ตอกย้ำคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ ที่มุ่งสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น เสริมแกร่งเอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ ยืนหนึ่งในฐานะอาคารสำนักงานให้เช่าเกรดเอระดับพรีเมี่ยมย่าน CBD ของกรุงเทพฯ ทั้งยังมุ่งอนุรักษ์พลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนด้วยมาตรฐาน LEED EBOM ระดับ Platinum Level พร้อมอีกหลากหลายรางวัลจากเวทีระดับโลก
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “นับตั้งแต่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ร่วมกับกลุ่มบริษัทเอไอเอ เปิดให้บริการสถานีเซนต์หลุยส์ ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่พักอาศัยในย่านสาทร ซอยเซนต์หลุยส์ และพื้นที่โดยรอบ รวมถึงนักเรียน บุคลากรของโรงพยาบาลเซ็นต์หลุยส์ ผู้ที่ทำงานในอาคารเอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ และอาคารสำนักงานใกล้เคียง ได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนไทย วันนี้ เอไอเอ ในฐานะบริษัทประกันชีวิตไทยเพื่อคนไทย ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมเมืองสู่ความยั่งยืน ด้วยการเปิดตัวทางเชื่อมสกายวอล์ก ระหว่างบริเวณสถานีเซนต์หลุยส์ กับอาคารเอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ เพื่ออำนวยความสะดวกอีกขั้นให้กับผู้ที่เดินทางจากตัวสถานีมายังอาคาร หรือจากตัวสถานีผ่านทางเชื่อมต่อไปยังจุดอื่น ๆ ภายในชุมชน โดยทุกท่านสามารถเดินทางด้วยความสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม เป็นไปตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ ซึ่งเอไอเอยึดถือในการดำเนินธุรกิจ และอยู่เคียงข้างคนไทยมาตลอดระยะเวลา 83 ปีที่ผ่านมา”
นายโจฮัน ดีทอย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “ปัจจุบันเอไอเอ ประเทศไทย ได้มีการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์รวมทั้งสิ้น 3 โครงการด้วยกัน ได้แก่ เอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ (AIA Capital Center) เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ (AIA Sathorn Tower) และ เอไอเอ อีสต์ เกตเวย์
(AIA East Gateway) โดยทั้ง 3 อาคารเป็นอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกให้เช่า บนย่านสำคัญทางธุรกิจของไทย โดยปัจจุบันการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทคิดเป็นประมาณ 2% ของพอร์ตการลงทุน ทั้งนี้ การเลือกลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของเอไอเอนั้น เรามีความมุ่งมั่นที่จะช่วยยกระดับคุณภาพอาคารสำนักงานระดับพรีเมี่ยมในเมืองไทยให้อยู่ในระดับสากล ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทั้งแก่ผู้เช่า และชุมชนรอบข้าง เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สำหรับสถานีเซนต์หลุยส์ บีทีเอสได้มีการประมาณการผู้ใช้บริการคิดเป็นจำนวนเที่ยวการเดินทางประมาณ 17,000 คน/วัน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการคมนาคมด้วยระบบขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การลงทุนดังกล่าวถือเป็นแผนการลงทุนระยะยาวของเอไอเอ เนื่องจากเราเล็งเห็นแนวโน้มการเติบโตทั้งทางเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของผู้คนบนย่านที่เราลงทุน”
ด้านนายปกป้อง ยินดีผล ผู้อำนวยการฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ เอไอเอ ประเทศไทย เผยว่า “การมีทางเชื่อมโดยตรงจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเข้าสู่ตัวอาคาร เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาคาร เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ ได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการเช่าพื้นที่สำนักงานเพิ่มขึ้น เพราะนอกจาก เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ จะเป็นอาคารสำนักงานเกรดเอระดับพรีเมี่ยม โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัย และฟังก์ชันพิเศษของอาคารอัฉจริยะที่ครบครันเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เน้นประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐาน LEED EBOM ในระดับ Platinum พร้อมด้วยรางวัลอันทรงเกียรติจาก 2 เวทีชั้นนำอย่าง Thailand’s Property Awards และ Southeast Asia Property Awards ตัวอาคารยังตั้งอยู่บนทำเลทองย่าน CBD ที่สะดวกสบายต่อการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว หรือรถโดยสารสาธารณะ อันถือเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ที่ผู้เช่าใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาเลือกเช่าสำนักงาน”