Monday, 29 April 2024 | 12:08 am
spot_img
Monday, 29 April 2024 | 12:08 am
spot_img

ทายาทรุ่น 3 กุนเชียง 5 ดาว ปั้นอาณาจักร ‘เต่าสะเร็น’ ศูนย์รวมของฝาก จ.สุรินทร์ SME D Bank ติดอาวุธ เติมทุนคู่การตลาดออนไลน์ เสิร์ฟนักท่องเที่ยวไทย-เทศ

อาคารรูปเต่าขนาดยักษ์ ตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นที่ 25 ไร่ ริมถนนสาย 24 ต.ปรือ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ คือ “เต่าสะเร็น” (TaoSaren) จุดเช็คอินแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนภาคอีสาน ผลงานของทายาทรุ่น 3 แห่ง “กุนเชียง 5 ดาว” ร้านของฝากขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดใน จ.สุรินทร์ วันนี้เขามุ่งมั่นนำพาธุรกิจครอบครัวให้ยังคงเติบโตต่อเนื่อง

ธุรกิจกว่า 50 ปี ถูกขับเคลื่อนด้วยวิชันของคนรุ่นใหม่ โดยมี ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank สนับสนุนทั้งด้านเงินทุน และเติมองค์ความรู้ โดยเฉพาะเรื่องการตลาดออนไลน์ เพื่อให้กิจการรุ่นเก๋ายังแข็งแกร่ง สร้างตัวตนในโลกการค้ายุคใหม่ รับมือการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นคง

“ร้านกุนเชียง 5 ดาว” คือร้านขายของฝากเจ้าแรกและเก่าแก่ที่สุดในสุรินทร์ เสิร์ฟความอร่อยมาตั้งแต่รุ่นปู่ที่รู้จักกันในชื่อร้าน “โค้วคี่เฮียง” ตามชื่อของผู้ก่อตั้ง จนเข้าสู่ยุคทายาทรุ่น 2 “นัทช์ธนากรน์ ประสิทธิ์ธิเม” มีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “ร้านสหรส” ที่คุ้นหูของคนสุรินทร์ในยุคก่อน ภายหลังจึงเปลี่ยนมาเป็น “ร้านกุนเชียง 5 ดาว” เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ ยิ่งขึ้น และยังใช้แบรนด์ “5 ดาว” ในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ทางร้านผลิตขึ้นเองอีกด้วย

ย้อนกลับไปประมาณกว่า 10 ปีก่อน ทายาทรุ่น 3 เริ่มเข้ามาสานต่อธุรกิจ ประกอบด้วย “ภาวิดา, ธนะกฤษฏิ์ และธนวรรธน์ ประสิทธิ์ธิเม” ในวันนั้นธุรกิจครอบครัวมีอยู่ 2 สาขา ในเมืองสุรินทร์ เป็นร้านของฝากยอดนิยมที่ใคร ๆ ต้องแวะเวียนหาเสมอ เพราะมีสินค้าที่ผลิตเองกว่า 50 รายการ และเริ่มวางจำหน่ายสินค้าในช่องทางโมเดิร์นเทรดอีกด้วย

“หลังเรียนจบ ผมกลับมาช่วยธุรกิจที่บ้าน ตอนนั้นเป็นจังหวะที่เราเปิดสาขา 2 ซึ่งเป็นสาขาที่ใหญ่ตั้งอยู่ในเมือง นักท่องเที่ยวใครมาก็ต้องมาแวะ เป็นช่วงเดียวกับที่ โมเดิร์นเทรดหลาย ๆ ราย เริ่มติดต่อเราเข้ามา เพื่อนำสินค้าของเราที่เป็นสินค้าท้องถิ่นประจำจังหวัดไปวางขาย แต่ต้องใช้ทั้งเอกสารและองค์ความรู้ที่ค่อนข้างเป็นวิชาการ คุณพ่อท่านไม่ถนัดเท่าไร จึงเป็นหน้าที่ของคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยงานในส่วนนี้”

“ธนะกฤษฎิ์ ประสิทธิ์ธิเม” ผู้บริหารร้านกุนเชียง 5 ดาว เล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการมาสานต่อธุรกิจครอบครัว เมื่อประมาณ 14 ปีก่อน และเป็นยุคของการยกระดับโรงงานผลิตให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้สามารถนำพาสินค้าจาก จ.สุรินทร์ เข้าไปจำหน่ายในห้างโมเดิร์นเทรดได้

หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงในยุคของเขา คือการขยายอาณาจักร กุนเชียง 5 ดาว มาเป็น “เต่าสะเร็น” ร้านสาขา 3 ที่เป็นมากกว่าร้านของฝาก แต่ยกระดับให้เป็นศูนย์รวมของฝากจากสุรินทร์ จุดพักรถ ศูนย์อาหาร คาเฟ่ เบเกอรี่ แม้แต่สวนสัตว์เล็ก ๆ บนที่ดินกว่า 25 ไร่ โดยมีสัญลักษณ์เด่นเป็นอาคารรูปเต่าขนาดยักษ์ที่มีขนาดถึง 3 ไร่ ซึ่งเต่าถือเป็นสัตว์ที่คุณพ่อชื่นชอบ ส่วน สะเร็น ก็แปลว่า สุรินทร์ ในภาษากัมพูชาประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันนั่นเอง

“เราใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 6 ปี และเปิดให้บริการมาแล้วประมาณหนึ่งปีครึ่ง ก่อตั้งเป็นอาคารขนาดใหญ่ครบวงจร มีทั้งศูนย์อาหาร คาเฟ่ มีสวนสัตว์เล็กๆ สินค้าก็หลากหลายขึ้น ไม่ใช่แค่ของกิน แต่ยังมีพวกผ้าไหม งานหัตถกรรม งานแฮนด์เมด ทั้งในสุรินทร์และจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย อย่างร้านเดิมของเราอยู่ในเมือง รองรับลูกค้าได้จำกัด จอดรถบัสได้แค่ 2 คัน แต่ที่เต่าสะเร็นรองรับรถทัวร์ได้ถึง 20 คัน รถส่วนบุคคลได้ประมาณ 400 คัน มีที่นั่งรองรับคนได้พร้อมกันถึง 300 คน ซึ่งที่ผ่านมามีคนมาใช้สถานที่ของเราจัดงานแต่งงานและจัดประชุมอีกด้วย ก็เป็นโอกาสใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น”

อาณาจักรเต่าสะเร็น ไม่ได้เป็นแค่จุดเช็คอินให้นักท่องเที่ยวแวะมาพักเท่านั้น แต่ยังรองรับการเติบโตของธุรกิจ กุนเชียง 5 ดาวในอนาคต ธนะกฤษฎิ์ บอกว่า วางแผนย้ายโรงงานผลิตจากเดิมที่อยู่หลังร้านสาขาในเมือง ซึ่งขยายได้ค่อนข้างลำบากและแออัด มาตั้งเป็นโรงงานผลิตมาตรฐานที่เต่าสะเร็น เนื่องจากยังมีพื้นที่ว่างเหลืออยู่ รองรับกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว และยังมีโอกาสในตลาดรับจ้างผลิต (OEM) ในอนาคตอีกด้วย

“เราอยากทำโรงงานให้สวย มีมาตรฐาน รองรับนักศึกษาและหน่วยงานต่างๆ เข้ามาศึกษาดูงานได้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นศูนย์เรียนรู้ด้วย ขณะที่เราเองมีผลิตภัณฑ์หลาย ๆ ตัว ที่ผลิตเองอยากให้ลูกค้าหรือว่าใครที่เข้ามาได้เห็นว่า เรามีศักยภาพ พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตรับทำ OEM ในอนาคต” ธนะกฤษฎิ์ กล่าวถึงโอกาสของธุรกิจ

นอกจากเต่าสะเร็น ทายาทรุ่นที่ 3 ยังได้ขยายช่องทางการตลาดออนไลน์ เพื่อรองรับการค้าในโลกยุคใหม่ ที่ผู้คนเข้ามาใช้ชีวิตบนออนไลน์มากขึ้น โดยเริ่มนำสินค้าวางขายบนแพลตฟอร์ม Shopee, Lazada ขายผ่าน Facebook, Instagram และ TikTok รวมถึงเว็บไซต์ของตัวเองอีกด้วย

“โควิด-19 ที่ผ่านมา ช่องทางออนไลน์คึกคักอย่างมาก ส่งสนับสนุนยอดขายของเรา แม้ไม่ได้ดีเท่ากับขายหน้าร้าน แต่ทำให้ธุรกิจประคับประคองผ่านไปได้ เพราะช่วงนั้นรายได้จากหน้าร้านหายไปถึง 80% สวนทางกับรายจ่าย ซึ่งได้ SME D Bank ที่มีมาตรการช่วยเหลือ รวมถึงการปรับตัวของกิจการ ทำให้เราผ่านวิกฤติมาได้ ตั้งแต่เข้ามาช่วยธุรกิจที่บ้าน เห็นว่าใช้บริการของ SME D Bank เป็นลูกค้ากันมานาน นอกจากด้าน “เงินทุน” ยังให้ความรู้ ผ่านการจัดอบรมต่าง ๆ และได้เข้าร่วมอบรม หลักสูตร ‘TikTok For Business’ นำมาพัฒนาแพลตฟอร์ม TikTok ของบริษัท ได้รับประโยชน์อย่างมาก”

แม้ออนไลน์จะไม่ใช่ช่องทางขายหลัก และยังเป็นเรื่องใหม่ แต่ถือเป็นโอกาสที่ทายาทรุ่นที่ 3 สามารถขยับขยายกิจการของครอบครัวให้เติบโตขึ้นยิ่งขึ้น ภายใต้ปณิธานที่ยึดมั่นมาตั้งแต่คนรุ่น 1 นั่นคือ ซื่อสัตย์ สุจริต ทำของดีมีคุณภาพ รสชาติอร่อย แปลกใหม่ ไม่หลอกลวงผู้บริโภค ถือเป็นหัวใจแห่งความสำเร็จของกุนเชียง 5 ดาว จนถึงทุกวันนี้

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

ข่าวล่าสุด

บริษัท ไม่ลองไม่รู้ จำกัด เลขที่ 108/240 หมู่ที่ 2 หมู่บ้านพฤกษาวิลล์56 ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210

E-Mail : anchaliphon.k@gmail.com

T. 081-666-6822

จำนวนผู้เข้าชม : 980,194

©2020-2022 www.worldbusiness-th.com