ร้านอาหาร “กล้วยน้ำว้า” ชูอร่อยเมนูท้องถิ่น ขึ้นแท่นขวัญใจชาวภูเก็ตSME D Bank จับมือปรับภูมิทัศน์ สถานการณ์โควิดเอาอยู่

หากคิดทำอาชีพใดอาชีพหนึ่ง โดยมุ่งจะทำเฉพาะในสิ่งที่ “รัก” อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ฉะนั้น การตัดเรื่องความรักที่จะทำออกไปจากแผนธุรกิจ แล้วมองถึงความ “เป็นไปได้” แทนที่ นี่คือหมุดหมายสำคัญที่ “พิสุทธิ์ สุทธิจินดาวงศ์” เจ้าของร้าน “กล้วยน้ำว้า” ร้านอาหารท้องถิ่นสไตล์คาเฟ่ที่คนภูเก็ตคุ้นเคยเป็นอย่างดี สามารถกินได้ทุกวัน นำมาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจ

และแม้ในวันที่สถานการณ์โควิด-19 เข้าเล่นงาน หลายกิจการล้มพับ แต่ร้านกล้วยน้ำว้า สามารถปรับตัวให้อยู่รอด เพราะรู้วิธีตั้งรับปรับภูมิทัศน์ร้านให้กลายเป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ โดยได้แรงหนุนจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เข้ามาเสริมแกร่งให้ก้าวผ่านวิกฤตไปได้อย่างสง่างาม

ย้อนไปเมื่อราว 13 ปีก่อน คุณพิสุทธิ์ ประเมินสถานการณ์ร้านกาแฟสดในจังหวัดภูเก็ตยังมีอยู่ไม่มาก เมื่อเทียบกับแนวโน้มการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตที่เติบโตต่อเนื่อง มีผู้คนทั้งพื้นถิ่น ต่างถิ่น นักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาจำนวนมาก ประกอบกับมีทำเลเหมาะ จึงทดลองเปิดคาเฟ่เล็กๆ

ลูกค้าทยอยเข้าร้านไม่ขาดช่วง คือสิ่งบ่งชี้ว่ามีโอกาสก้าวต่อ จึงขยับขยายสาขาถึงขณะนี้ 3 แห่ง และเพิ่มเมนูหลากหลาย ชูจุดเด่นอาหารท้องถิ่นที่คนภูเก็ตคุ้นเคยดี เช่น แกงส้มขาหมู อึกเคยเค็ม หมูฮ้อง แกงปู ข้าวผัดปู ปลามงทอดเครื่อง เป็นต้น

“โดยส่วนตัวผมทำธุรกิจหลายอย่าง หลักๆ คืองานด้านอสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง ฉะนั้นในธุรกิจคาเฟ่ตอบเลยว่าไม่ได้อยู่ในความรัก ความสนใจ เพียงแต่มองเห็นโอกาส เห็นความเป็นไปได้ โดยเริ่มแรกขายกาแฟ เครื่องดื่ม เบเกอรี่ เป็นหลัก กระทั่งมองว่าอาหารน่าจะช่วยส่งเสริมรายได้อีกทาง ซึ่งโดยร้านคาเฟ่ทั่วไป เน้นเมนูฝรั่ง แต่เรามองว่าอาหารท้องถิ่นน่าจะตอบโจทย์ได้ดี”

วิสัยทัศน์สำคัญกว่าใจรัก คือแนวทางการทำธุรกิจของคุณพิสุทธิ์ “ถ้าเราไม่รู้ว่าคนที่นี่ชอบอะไร ทำไปก็ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ผมเป็นคนภูเก็ตโดยกำเนิด รู้จักอาหารภูเก็ตเป็นอย่างดี ผ่านการกินมาตั้งแต่เด็ก คนภูเก็ตชอบรสชาติแบบไหน วิถีชีวิตวัฒนธรรมเป็นเช่นไร นี่คือสิ่งที่รู้ แต่ในขณะเดียวกันผมทำอาหารไม่เป็น ซึ่งไม่ใช่ปัญหา เพราะสามารถเลือกคนที่มีความสามารถด้านนี้เข้ามาทำได้”

ในส่วนของร้านถ้าทำหรูหราราคาแพง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าเข้ามาเพียงเดือนละ 1 ครั้ง เฉพาะเทศกาล หรือเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ไม่ใช่ความสำเร็จในระยะยาว แต่ต้องทำร้านอาหารให้คนพื้นที่ คนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตมากินได้ทุกวัน

เมื่ออ่านเกมตลาดออก จึงไม่แปลกใจที่ในวันนี้ร้านกล้วยน้ำว้า จะมีลูกค้าเนืองแน่น กลายเป็นร้านชื่อดังของคนภูเก็ต เป็นร้านอาหารต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง อันเกิดจากแรงบอกต่อปากต่อปาก บวกพลังโซเชียลมีเดีย ที่มีนักรีวิวหลายต่อหลายท่านเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมและร่วมรีวิวพร้อมกับโปรโมทให้กับทางร้าน ให้ได้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

จากการทำธุรกิจเจาะกลุ่มเป้าหมายคนในพื้นที่ เพราะเชื่อว่าจะยั่งยืนกว่า ตอกย้ำความจริงชัดเจน เมื่อพิษโควิด-19 เล่นงาน จังหวัดภูเก็ตกลายเป็นความอ้างว้างจากนักท่องเที่ยว ร้านอาหารและธุรกิจที่เปิดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างล้มพับ แต่ในขณะร้านกล้วยน้ำว้า ยังคงเติบโตต่อได้ เนื่องจากปรับตัว ให้สอดคล้องกันสถานการณ์ โดยหยุดให้บริการโซนเครื่องปรับอากาศชั่วคราว คงเหลือไว้เพียงลานด้านนอก ทำให้สามารถเปิดให้บริการได้ มีรายได้เข้ามาหล่อเลี้ยง ช่วยประคองให้ร้านยังคงเดินต่อไปได้

การปรับตัวเปลี่ยนภูมิทัศน์ร้านดังกล่าว คุณพิสุทธิ์วางแผนและจับมือกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ที่เข้ามาช่วยเติมทุน ทำให้การปรับปรุงสถานที่ สำเร็จลุล่วง จนสามารถก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 มาได้ และเดินหน้าธุรกิจต่อไป อย่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ

คุณพิสุทธิ์ ทิ้งท้ายให้คำแนะนำสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเดินสู่อาชีพอิสระ ว่า “ถ้าให้ผมแนะนำ อย่าทำงานที่ใจรัก แต่จงทำงานที่คาดว่ามีอนาคต จำนวนคนเกินครึ่งไม่ได้อยู่ในสายงานที่รัก แต่ทำได้ดี ประสบความสำเร็จ ฉะนั้นอย่าติดกับดักความคิด การรอคอยแต่อาชีพที่ตัวเองรักเท่านั้น กลับมาตั้งเป้าหมายใหม่ ทำงานต้องสร้างรายได้เหมาะสม ต้องยั่งยืน ต้องมีอนาคต ต้องประสบความสำเร็จ”