
เปิดกลยุทธ์ไทยประกันชีวิต ปี 68 ชู 4 แกนบนแนวคิดการดูแลด้วยหัวใจ ตอกย้ำการเป็นแบรนด์ที่สร้างคุ
นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริ
เพื่อยกระดับการส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสีย พร้อมตอกย้ำการเป็นแบรนด์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนในสังคม ให้ตระหนักถึงคุณค่าของชีวิต คุณค่าของความรัก พร้อมเติมเต็มการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและความหมาย ในปี 2568 บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดการดูแลด้วยหั
“เราเน้นพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสิทธิภาพการบริการด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการทำธุรกรรมด้านประกันชีวิตด้วยตัวเอง และส่งมอบประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงการทำธุรกรรม การบริการ รวมถึงสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ทุกที่และทุกเวลา ผ่าน TLI Application ผสานกับการพัฒนาบริการในลักษณะe-Service ที่หลากหลาย เช่น e-Policy กรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์, e-Paymentการชำระเบี้ยประกันผ่านช่องทางออนไลน์, e-Claim การเคลมสินไหมผ่านแอปพลิเคชัน, e-Manual คู่มือผู้เอาประกันภัยอิเล็กทรอนิกส์, e-Invoice การรับใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแอปพลิเคชัน หรือ AI Chat ที่จะให้บริการข้อมูลด้านการประกันชีวิตผ่านไลน์ เป็นต้น
ไม่เพียงแต่การพัฒนาเครื่องมือดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ไทยประกันชีวิตยังพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อเป็นเครื่องมือสนับสนุนการทำงานของฝ่ายขาย คือ MDA 4Plus เพื่อให้ฝ่ายขายสามารถนำเสนอขาย บริการลูกค้า สร้างทีมงานและบริหารทีมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังเชื่อมต่อแบรนด์ไทยประกันชีวิตกับผู้บริโภค โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม “Live Bright เพื่อนผู้ช่วยสุดสมาร์ทที่ช่วยค้นหาสิ่งที่คุณอยากทำ” เป็นเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนให้คนสามารถออกไปใช้ชีวิตได้แบบEnd 2 End ตั้งแต่การสร้างแรงบันดาลใจ การกระตุ้นให้เกิดการลงมือทำ การวางแผนหรือกำหนดรูปแบบกิจกรรมที่ตรงตามไลฟ์สไตล์ ตรงตามความชอบและความมุ่งหวัง ซึ่งสอดคล้องกับ Insight ของคนในปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตเร่งรีบ จนทำให้บางครั้งไม่มีเวลาในการวางแผนออกไปใช้ชีวิตตามที่ตัวเองชื่นชอบ หรือใช้เวลากับคนที่รักอย่างมีความหมาย
นายไชยกล่าวว่า สิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวสู่บริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน คือบุคลากรไทยประกันชีวิต จึงดำเนินธุรกิจในลักษณะ People Business โดยให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนาศักยภาพ และปรับเปลี่ยน Mindset บุคลากร ด้วยการสร้างแนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือ Lifelong Learning โดยริเริ่มโครงการ School of Get สำหรับผู้บริหารและบุคลากรฝ่ายขาย
“School of Get เป็นโครงการที่ไทยประกันชีวิตริ
นอกเหนือจากการความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ ไทยประกันชีวิตยังให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าร่วมระหว่างธุรกิจและสังคม โดยนำแนวทาง ESG มาผนวกเข้ากับกลยุทธ์ทางธุรกิจ ครอบคลุมทั้้งในมิติเศรษฐกิจ มิติสังคม มิติสิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล ดำเนินธุรกิจด้วยการแสวงหากำไรที่เหมาะสม (Optimize Profit) และแบ่งปันกำไรส่วนหนึ่งคืนกลับสู่สังคม เพื่อให้บริษัทและสังคมไทยเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กัน
ไทยประกันชีวิต เป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่จัดทำแผนแม่บทการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยอ้างอิงจากแผนแม่บทเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ขององค์การสหประชาชาติ ตามแนวทางของ UN Global Compact ภายใต้กรอบกลยุทธ์การดําเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability Strategy)“TLI” คือ Trusted Partner ตอบโจทย์ทุกความไว้วางใจ, Life Inclusion เชื่อมประสบการณ์สู่โอกาส และ Infinite World พร้อมส่งต่อโลกที่ดีกว่า
นายไชยกล่าวว่า ไทยประกันชีวิตไม่ได้เพิ่งเริ่มปรับตัว แต่เราปรับเปลี่ยนองค์กรมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานเพื่อให้เท่าทันกระแสที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และรองรับความต้องการของลูกค้าที่ปรับเปลี่ยน โดยลูกค้ามีความคาดหวังมากขึ้น ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็วขึ้น รวมถึงการแข่งขันที่สูงขึ้นทั้งจากคู่แข่งในธุรกิจและนอกธุรกิจเราจึงมีเป้าหมายที่จะทำให้ไทยประกันชีวิตเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจคนไทย และสามารถส่งมอบและสร้างแรงบันดาลใจอย่างยั่งยืนให้กับสังคมไทย