เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. มอบหมายให้นายอาภากร ปานเลิศ รองเลขาธิการ ด้านกำกับธุรกิจประกันภัย และนางมยุรินทร์ สุทธิรัตนพันธ์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ นำคณะผู้บริหารและพนักงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) เข้าพบ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อหารือแนวทางการสร้างพื้นที่ต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนนและการรณรงค์ประกันภัยรถภาคบังคับ ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่เข้าร่วมประชุม ได้แก่ สำนักงานจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัด สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด สำนักงานขนส่งจังหวัด แขวงทางหลวง และแขวงทางหลวงชนบท
โครงการนี้เป็นหนึ่งในแผนงานสำคัญประจำปี 2568 ของสำนักงาน คปภ. และกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ที่มุ่งเน้น การศึกษาวิจัยเพื่อแสวงหาและพัฒนามาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยผสานการศึกษาวิจัยเชิงลึกเข้ากับการดำเนินมาตรการในพื้นที่เป้าหมาย ควบคู่กับการติดตามและประเมินผลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของมาตรการที่เป็นรูปธรรม สามารถนำไปต่อยอดและขยายผลสู่ระดับประเทศ นับเป็นครั้งแรกที่มีการดำเนินโครงการในรูปแบบงานวิจัยและกิจกรรมรณรงค์เพื่อสร้าง การตระหนักรู้ พร้อมผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการสร้างสังคมที่ปลอดภัยบนท้องถนน ลดการสูญเสีย และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืนโดยปีนี้จังหวัดปราจีนบุรีได้รับเลือกเป็นพื้นที่นำร่อง เนื่องจากมีศักยภาพสูงในการลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน รวมถึงเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและเส้นทางขนส่งทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
ในการประชุมครั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับฟังข้อมูลจากผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินโครงการให้บรรลุผลสำเร็จ พร้อมทั้งส่งเสริมความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมในทุกมิติ นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีได้ให้การสนับสนุนโดยมอบหมายให้ส่วนราชการในพื้นที่จัดตั้งคณะทำงานร่วมกับสำนักงาน คปภ. เพื่อขับเคลื่อนโครงการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด
โครงการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในการพัฒนามาตรการลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคอุตสาหกรรมประกันภัยที่จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนมาตรการเชิงป้องกันและส่งเสริมความปลอดภัยทางถนนในระยะยาว ควบคู่กับการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการประกันภัยรถภาคบังคับ นอกจากนี้ ผลการศึกษาวิจัยภายใต้โครงการนี้จะนำไปใช้เป็นข้อมูลเพื่อทบทวนและปรับปรุงเงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน กระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการทำประกันภัย และรองรับกรณีอุบัติเหตุที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับความคุ้มครองสูงสุด อันจะนำไปสู่การสร้างสังคมที่ปลอดภัยและยั่งยืนในทุกมิติ
