Saturday, 27 April 2024 | 6:36 pm
spot_img
Saturday, 27 April 2024 | 6:36 pm
spot_img

สดช.เปิดตัว Digital Cultural Heritage ระยะที่2 ร่วมดันมรดกไทยสู่โลกดิจิทัลก่อนสูญหาย

กรุงเทพ- เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช) หรือ ONDE กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขานรับนโยบายแผนรัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย เดินหน้าจัดงาน Digital Cultural Heritage ระยะที่ 2  หวังถ่ายทอดมรดกวัฒนธรรมให้สามารถไปสู่ระดับโลกผ่านระบบดิจิทัลเพื่อเป็นการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมไทยให้อยู่ในรูปแบบที่ยั่งยืนก่อนสูญหายตามกาลเวลาของคนรุ่นเก่าที่ไร้เงาคนรุ่นใหม่ช่วยสานงานต่อ งานนี้เปิดเวทีจัดกิจกรรมแข่งขันเชิงสร้างสรรค์ “Hackulture 2023 illuminate Thai อัปเวลแฟชั่นไทย ด้วยดิจิทัล” เชิญชวนคนรุ่นใหม่มาร่วมประชันไอเดียแฮกแฟชั่นไทยด้วยวัฒนธรรมและดิจิทัลคอนเทนต์ ปลุกพลัง Soft Power ไทย พร้อมร่วมชิงเงินรางวัลรวมกว่า 400,000 บาท เตรียมเปิดรับผลงานได้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม- 30 กันยายน 2566 สมัครได้ที่ www.hackulture.com

จากนโยบายแผนรัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2566 – 2570 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบถึงยุทธศาสตร์ต่อการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลให้มีทิศทางที่ชัดเจนและเกิดขึ้นได้จริงในเชิงปฏิบัติ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำทางสิทธิสวัสดิการประชาชนและมีมาตรฐานทัดเทียมกับนานาประเทศ จึงมีความจำเป็นที่ทุกหน่วยงานภาครัฐต้องเร่งพัฒนาและยกระดับหน่วยงานให้สอดคล้องกับทิศทางการขับเคลื่อนของประเทศ โดยเฉพาะเรื่อง Digital Cultural Heritage หรือการถ่ายทอดมรดกวัฒนธรรมให้สามารถไปสู่ระดับโลกผ่านระบบดิจิทัลเพื่อเป็นการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมไทยให้อยู่ในรูปแบบที่ยั่งยืน ประกอบกับวัฒนธรรมไทย ถือว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่เต็มไปด้วยอัตลักษณ์ไม่เหมือนชาติอื่น และมีส่วนอย่างมากในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศไทยให้เติบโตขึ้น

เพราะจากการเปิดเผยของ คุณภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช) หรือ ONDE กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ความน่าเป็นห่วงในเรื่องของการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมไทยให้อยู่ในรูปแบบที่ยั่งยืน คือ คนรุ่นใหม่ไม่ได้เดินรอยสานต่อจากคุณพ่อ คุณแม่ ในการคงไว้ซึ่งการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมไทย เช่น วิธีการสานกระติ๊บ การสานแห ทำให้มรดกวัฒนธรรมไทยบางอย่างเริ่มเลือนลางค่อย ๆ หายไป ดังนั้นทาง ONDE จึงได้เดินหน้าเปิดตัวโครงการส่งเสริมการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาติสู่รูปแบบดิจิทัล หรือ Digital Cultural Heritage ระยะที่ 2  ขึ้น หลังจากที่ประสบความสำเร็จมาแล้วอย่างมากในการจัดโครงการ Digital Cultural Heritage ครั้งแรกขึ้นเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ในการสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงคุณค่าของวัฒนธรรมไทย โดยมีภาครัฐและเอกชนรับหน้าที่ส่งเสริมคนรุ่นใหม่ในการนำมรดกวัฒนธรรมไปต่อยอดอยู่ในรูปแบบดิจิทัล

สำหรับโครงการ Digital Cultural Heritage ระยะที่ 2 คุณภุชพงค์  กล่าวว่า จะมีการจัดกิจกรรมแข่งขันเชิงสร้างสรรค์ “Hackulture 2023 illuminate Thai อัปเวลแฟชั่นไทย ด้วยดิจิทัล” ดังนั้นจึงอยากเชิญชวนเยาวชนและประชาชนทั่วไป มาประชันไอเดียช่วยกันแฮกแฟชั่นไทยด้วยวัฒนธรรมและดิจิทัลคอนเทนต์ ปลุกพลัง Soft Power ไทยเพื่อชิงเงินรางวัลรวมกว่า 400,000 บาท พร้อมโอกาสนำเสนอผลงานต่อผู้บริหารองค์กรทางด้านดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทย อาทิ สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชันและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย (TACGA) บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย ผู้บริหารห้างสรรพสินค้า Show DC ฯลฯ เพราะถ้าผลงานโดดเด่นและโดนใจนักลงทุน ก็จะเกิดการต่อยอดพัฒนาผลงาน และสร้างรายได้ได้จริงในอนาคต

นอกจากนี้ทีมที่ผ่านรอบคัดเลือกทุกทีมจะได้รับทุน Smart Skills หลักสูตร E-Learning เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล ที่ได้รับการยอมรับจากบริษัทดิจิทัลชั้นนำระดับโลก มูลค่าประมาณ 5,700 บาท โดยมอบให้กับสมาชิกในทีมทุกคนที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรก เรียกได้ว่าโครงการ Digital Cultural Heritage ระยะที่ 2  จะเป็นเวทีประชันความสามารถของมนุษย์ยุคดิจิทัลให้ใช้ทักษะความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ ในการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรม และยกระดับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ประกอบไปด้วย สิ่งทอ เครื่องแต่งกาย เครื่องหนัง เครื่องประดับและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่นไทย ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลและดิจิทัลแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการสร้าง Soft Power ที่สามารถสร้างรายได้และเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจของชาติได้อย่างยั่งยืนจริง ๆ

โดยในส่วนของ “Hackulture 2023 illuminate Thai อัปเวลแฟชั่นไทย ด้วยดิจิทัล” จะมีการแข่งขัน 2 ระดับ ได้แก่ ระดับนักเรียน นิสิต นักศึกษา (มัธยม / ปวช. / ปวส. / ปริญญาตรี) และระดับประชาชนทั่วไป (ประชาชนทั่วไป / ปริญญาโท / ปริญญาเอก) ซึ่งสามารถรวมกลุ่ม 4-6 คน มาประชันไอเดียและสร้างสรรค์ผลงาน มีการแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 สาขา ได้แก่ 1) สาขาเทคโนโลยีดิจิทัล: คิดค้น สร้างสรรค์นวัตกรรมหรือปรับปรุงชิ้นงานกระบวนการที่มีอยู่เดิมให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น สามารถสร้างความสะดวกสบายหรือเพิ่มมูลค่าเชิงการตลาด เช่น Application Game นวัตกรรมที่ใช้ใน Platform ที่มีอยู่เดิม AR VR นวัตกรรมที่ใช้การ Coding เทคโนโลยีบล็อกเชน และอื่น ๆ

2) สาขาสื่อมัลติมีเดีย: สร้างสรรค์ชิ้นงานที่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดเดิม ๆ เพื่อนำไปสู่การสร้างกรอบความคิดใหม่ นำเสนอผลงานในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่ง อาทิ แอนิเมชัน โมชันกราฟิก 2D 3D Motion ภาพยนตร์สั้นที่มีการใช้ Computer Graphic เป็นองค์ประกอบในการนำเสนอ และอื่น ๆ เปิดรับผลงานตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม- 30 กันยายน 2566 สมัครได้ที่ www.hackulture.com สอบถามเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/dchthackulture หรือdcht2@event.hackulture.com เบอร์โทรศัพท์ : 099-4946664

อย่างไรก็ดี คุณภุชพงค์ กล่าวเสริมว่า ในปี 2566 นี้ สดช. เลือก 1 ใน 5F (Food Film Fashion Fighting และ Festival) ของ Soft Power ไทยนั่นคือ F-Fashion มาเป็นธีมแข่งขัน Hackulture 2023 illuminate Thai อัปเวลแฟชั่นไทย ด้วยดิจิทัล จึงอยากเชิญชวนเยาวชนและประชาชนทั่วไป ร่วมประชันไอเดียช่วยกันแฮกแฟชั่นไทยด้วยวัฒนธรรมและดิจิทัลคอนเทนต์ ปลุกพลัง Soft Power ไทย ให้ดังไกลระดับโลก เพราะการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมให้อยู่ในรูปแบบเนื้อหาดิจิทัล หรือ Digital Content อย่างสร้างสรรค์ ถือเป็นแนวทางหนึ่งในการธำรงรักษามรดกทางวัฒนธรรมของไทยให้คงอยู่ได้อย่างยั่งยืน และเข้าถึงได้อย่างกว้างขวาง

เพราะนอกจากจะจัดแข่งขัน Hackathon แล้วก็ยังมีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการโดยผ่านกระบวนการห้องปฏิบัติการนโยบายสาธารณะ หรือ Policy Lab เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้ที่เกี่ยวข้องกับมรดกทางวัฒนธรรมแต่ละด้าน มีส่วนร่วมในการออกแบบนโยบายสาธารณะเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งเจ้าของมรดกวัฒนธรรม เจ้าของแพลตฟอร์ม บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยี และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทุกภาคส่วนยอมรับว่า Cultural Content มีความสำคัญมากๆ และเป็นรากฐานของ Soft Power ไทย ซึ่งต้องถูกนำมาใช้และสร้างรายได้เข้าประเทศ ผ่านยุทธศาสตร์ 5 แนวทาง ได้แก่ ศึกษารวบรวม อนุรักษ์ พัฒนาทักษะ ต่อยอด และเผยแพร่เนื้อหาวัฒนธรรมด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี

ขณะเดียวกันภายหลังจากการสิ้นสุดโครงการ Digital Cultural Heritag ระยะที่ 2 ทางสดช. จะนำข้อสรุปที่ได้จากโครงการ ฯลฯ ดังกล่าว ไปเสนอต่อคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ก่อนเสนอต่อคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่มีท่านนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อผลักดันข้อเสนอแนะดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติต่อไป รวมทั้งสนับสนุนท้องถิ่นต่าง ๆ ให้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลถ่ายทอดมรดกวัฒนธรรม พร้อมทั้งจะจัดกิจกรรมการเรียนรู้และแข่งขันเชิงสร้างสรรค์ (Hackathon) เพื่อถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาติให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลอย่างต่อเนื่องต่อไป

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

ข่าวล่าสุด

บริษัท ไม่ลองไม่รู้ จำกัด เลขที่ 108/240 หมู่ที่ 2 หมู่บ้านพฤกษาวิลล์56 ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210

E-Mail : anchaliphon.k@gmail.com

T. 081-666-6822

จำนวนผู้เข้าชม : 979,779

©2020-2022 www.worldbusiness-th.com